เซนเซอร์ทาวเวอร์ เผยแพร่รายงาน “ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการโฆษณาแบบดิจิทัลของแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกในตลาดสหรัฐอเมริกา”

เซนเซอร์ทาวเวอร์ (Sensor Tower) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลตลาดมือถือระดับโลก ได้เผยแพร่รายงาน “ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการโฆษณาแบบดิจิทัลของแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกในตลาดสหรัฐอเมริกา” ซึ่งครอบคลุมการใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำในปี 2567 ในตลาดสหรัฐอเมริกา อัตราการเติบโต และแนวโน้มการใช้จ่ายโฆษณา ของแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกที่สำคัญในตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่องทางการดำเนินการที่สำคัญ และวัสดุโฆษณาที่ได้รับความนิยม

https://seenthis.kr/newspage/2481

ตามข้อมูลของ Cox Automotive สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิก โดยในปี 2566 แบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิก มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ทั้งหมด 46% ในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งสูงกว่า 34% ของแบรนด์รถยนต์ในสหรัฐอเมริกา

“โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota)” ครองอันดับที่ 2 ในส่วนแบ่งตลาดสหรัฐอเมริกา โดยมีส่วนแบ่ง 17% รองจาก “เจเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors, GM)” ที่มีส่วนแบ่ง 17% “ฮุนได มอเตอร์ (Hyundai - รวมถึง ฮุนได เจนเนซิส และเกีย)” ก็ประสบความสำเร็จในตลาดสหรัฐอเมริกา ด้วยส่วนแบ่งตลาด 11% ในปี 2566 จึงกลายเป็นแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง รองจาก “โตโยต้า มอเตอร์”

แบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกกำลังมีส่วนร่วมในการโฆษณาแบบดิจิทัลอย่างแข็งขันมากกว่าแบรนด์รถยนต์ในสหรัฐอเมริกา เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ ของสหรัฐอเมริกา ข้อมูลของ Sensor Tower แสดงให้เห็นว่า 7 ใน 10 บริษัทผู้โฆษณาแบรนด์รถยนต์ที่ใช้จ่ายด้านโฆษณาสูงสุดในตลาดสหรัฐอเมริกา เป็นแบรนด์เอเชียแปซิฟิก

ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 “ฮุนได มอเตอร์” ได้ใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้แซงหน้า “ฟอร์ด (Ford)” ขึ้นเป็นอันดับที่ 1 “โตโยต้า มอเตอร์” ใช้จ่ายด้านโฆษณาในสหรัฐอเมริกาอย่างมั่นคง โดยใช้จ่ายไป 150 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 จึงอยู่ในอันดับที่ 3

เนื่องจากการเติบโตและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา ทำให้แบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกหลายแบรนด์เพิ่มการใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัล ในปี 2567 เพื่อดึงดูดลูกค้าและขยายยอดขาย ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 “ฮุนได มอเตอร์” ใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลในตลาดสหรัฐอเมริกา 61 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 74% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้แซงหน้าแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกอื่นๆ “ฮอนด้า” เริ่มเพิ่มการใช้จ่ายด้านโฆษณาตั้งแต่ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ใช้จ่ายไป 48 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 130% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ตามหลัง “ฮุนได มอเตอร์”

เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกที่สำคัญกำลังโปรโมตโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองอย่างแข็งขันในตลาดสหรัฐอเมริกา เมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งการใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลของโมเดลต่างๆ ของแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกที่สำคัญในตลาดสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 “เกีย (Kia Motors)” มีการใช้จ่ายด้านโฆษณาในตลาดสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 สำหรับ “เกีย EV9 (Kia EV9)” ซึ่งเป็นโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ เพิ่มขึ้น 200% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ส่วนแบ่งการโฆษณาของโมเดลดังกล่าวติดอันดับ 1 ในบรรดาโมเดลรถยนต์ทั้งหมด

แพลตฟอร์ม OTT เป็นช่องทางการโฆษณาแบบดิจิทัลที่สำคัญสำหรับแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกที่สำคัญ เช่น “ฮุนได มอเตอร์” “โตโยต้า มอเตอร์” “นิสสัน (Nissan)” และ “เกีย” ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 “เกีย” ได้ใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลในตลาดสหรัฐอเมริกา ไป 62% ในแพลตฟอร์ม OTT “ฮุนได มอเตอร์” และ “นิสสัน” ใช้จ่ายไปประมาณ 30% ในแพลตฟอร์ม OTT

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ฮุนได มอเตอร์” มีความชื่นชอบแพลตฟอร์ม YouTube ในด้านการโฆษณาแบบดิจิทัล โดยใช้จ่ายไป 45% ของการใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัล ในตลาดสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 นอกจากนี้ YouTube ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ “ฮอนด้า” ใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา มากที่สุด โดยมีสัดส่วน 30% ของการใช้จ่ายด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลทั้งหมดในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567

เมื่อ Sensor Tower วิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายโฆษณาของ “ฮุนได มอเตอร์” และ “โตโยต้า มอเตอร์” พบว่า กลุ่มเป้าหมายโฆษณาของทั้งสองบริษัท มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการกระจายอายุ โดยมีอัตราส่วนของกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี สูงถึง 64% อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการกระจายเพศ “โตโยต้า มอเตอร์” มีสัดส่วนของกลุ่มเป้าหมายชายสูงกว่า โดยอยู่ที่ 60% ในขณะที่ “ฮุนได มอเตอร์” มีสัดส่วนของกลุ่มเป้าหมายหญิงสูงกว่า โดยอยู่ที่ 46% ซึ่งสูงกว่า 41% ของโตโยต้า มอเตอร์

“ฮุนได มอเตอร์” และ “โตโยต้า มอเตอร์” มีความแตกต่างกันในแง่ของวัสดุโฆษณา วัสดุโฆษณาแบบดิจิทัลที่ได้รับความนิยมของ “ฮุนได มอเตอร์” คือการเปรียบเทียบกับโมเดลที่แข่งขันกัน เน้นฟังก์ชันการใช้งานจริง ความสะดวกสบายในสถานการณ์การใช้รถยนต์ของครอบครัว และ ความได้เปรียบด้านราคา ในขณะที่ “โตโยต้า มอเตอร์” เน้นการร่วมมือกับกิจกรรมกีฬา ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของรถยนต์ และบริการหลังการขาย ที่ยอดเยี่ยม

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์ด้านการโฆษณาแบบดิจิทัลและความเป็นผู้นำของแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกในตลาดสหรัฐอเมริกาในปี 2567 รวมถึงวิธีการที่แบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกสามารถสร้างความแตกต่างให้กับวัสดุโฆษณาแบบดิจิทัลและได้รับความได้เปรียบ สามารถดูได้ในรายงาน “ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการโฆษณาแบบดิจิทัลของแบรนด์รถยนต์เอเชียแปซิฟิกในตลาดสหรัฐอเมริกา” คุณสามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้จากเว็บไซต์ ของ Sensor Tower

แนะนำ Sensor Tower

Sensor Tower ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทดิจิทัล ระดับโลก เช่น Twitter, Unity, Tencent, HBO Sensor Tower มีเครื่องมือด้านข่าวกรองที่ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดมือถือ ได้ เช่น ข่าวกรองข้อมูลร้านค้า และข่าวกรองโฆษณา เพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกและการสนับสนุนลูกค้าที่เป็นผู้นำในทุกขั้นตอนของการเดินทางทางธุรกิจ บนมือถือ ตั้งแต่สตาร์ทอัพบนมือถือ ไปจนถึงบริษัทชั้นนำและสถาบันการเงิน Sensor Tower ได้รับรางวัล “เครื่องมือข้อมูล/การวิเคราะห์ยอดเยี่ยม” จากงาน Pocket Gamer Mobile Games Awards 2022

เว็บไซต์: https://sensortower.com/ko

ติดต่อ
เซนเซอร์ทาวเวอร์
ทีมการตลาดสาขาเกาหลีใต้
ยู เยนา